คำพิพากษาฎีกาที่ 1411/2559

 

          แม้ขณะเกิดเหตุที่ลูกจ้างกระทำอนาจารและทำร้ายร่างกาย ว. จะเกิดนอกบริษัทและนอกเวลาทำงานของนายจ้าง แต่ลูกจ้าง และ ว.  ต่างเป็นพนักงานของนายจ้างซึ่งนายจ้างมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกำหนดไว้ในข้อ 9.8 ว่าพนักงานต้องรักษาไว้ซึ่งความสามัคคีระหว่างพนักงานทั้งในและนอกเวลาทำงาน ไม่ใช้กำลังทำร้ายร่างกายทั้งในบริเวณที่ทำการของบริษัทหรือนอกที่ทำการของบริษัทข้อ 9.28 ว่า ต้องไม่ประพฤติชั่วไม่ว่าในหรือนอกเวลาทำงาน และข้อ 9.30 ว่าต้องไม่กระทำผิดกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา อันเป็นข้อกำหนดเพื่อประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันส่งผลต่อการผลิตและกำไรเพิ่มขึ้นกับพนักงานที่จะได้โบนัสเพิ่มไปด้วย  จึงใช้บังคับกับลูกจ้างได้ ส่วนการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าวเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่าลูกจ้างกระทำอนาจารต่อ ว. เพื่อจะมีเพศสัมพันธ์แต่ ว.ไม่ยินยอม ลูกจ้างจึงลงมือทำร้ายร่างกาย ว. จนได้รับอันตรายแก่กาย เช่น ศีรษะบวมฟกช้ำบริเวณใบหน้า และบาดแผลแตกในปาก ฟันโยกต้องเสียค่ารักษาพยาบาลให้แก่ทันตแพทย์ไป 7,000 บาท การกระทำของลูกจ้างจึงเป็นกรณีร้ายแรงและลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน

 คำพิพากษาฎีกาที่ 1539-1545/2558

คำพิพากษาฎีกาที่ 1539-1545/2558

เลิกจ้างเพราะผลการปฏิบัติงานไม่เป็นที่น่าพอใจ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่...

อ่านต่อ »

 คำพิพากษาฎีกาที่ 1412/2559

คำพิพากษาฎีกาที่ 1412/2559

เอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้างรายหนึ่งให้ได้เปรียบผู้รับจ้างอีกรายหนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ใช่ไหม...

อ่านต่อ »